ฟีฟ่า เปิดการสอบสวนหลังเกิดการเหยียดเชื้อชาติในเกมฮังการี vs อังกฤษ

ฟีฟ่า ได้เปิดกระบวนการทางวินัยแล้ว ภายหลังการเหยียดผิว มุ่งเป้าไปที่ผู้เล่นอังกฤษระหว่างชัยชนะ 4-0ในวันพฤหัสบดีที่ฮังการีในรอบคัดเลือกฟุตบอลโลกที่บูดาเปสต์

ราฮีม สเตอร์ลิ้ง (Raheem Sterling) และ จูด เบลริงแฮม (Jude Bellingham) ต่างก็ตกเป็นเป้าหมาย ผู้เล่นอังกฤษก็ถูกขว้างด้วยสิ่งของ ในช่วงครึ่งหลังและยังมีเปลวไฟที่ถูกโยนลงบนสนามโดยแฟน ๆ เจ้าบ้านที่ Puskas Arena

อังกฤษประณามการล่วงละเมิดดังกล่าวว่า “ยอมรับไม่ได้โดยสิ้นเชิง”ฃ

จูด เบลลิงแฮม กองกลาง Borussia Dortmund วัย 18 ปี ทวิตข้อความ เมื่อวันศุกร์ว่า “นี้เป็นส่วนหนึ่งของเกมและจะเป็นเช่นนี้ตลอดไป จนกว่าจะมีการลงโทษที่เหมาะสม โดยผู้ที่มีอำนาจ เราไม่สามารถปล่อยให้ความเกลียดชังชนะได้ ยิ้มเข้าไว้”

“มันเป็นเรื่องน่าอับอายที่มันยังคงเกิดขึ้น” เมสัน เมาท์ กองกลางของเชลซี กล่าว

“เมื่อสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น ผลที่ตามมาจะต้องเกิดขึ้น และ FA จะพูดกับ FIFA เกี่ยวกับเรื่องนี้ และหวังว่ามันจะส่งถึงพวกเขาต่อไป และให้พวกเขาแบนผู้ชม “แต่มันต้องหยุด และเราจำเป็นต้องเอาสิ่งนี้ออกจากฟุตบอล”

บอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ เรียกร้องให้ฟีฟ่า “ดำเนินการอย่างแข็งขัน ต่อผู้รับผิดชอบ เพื่อให้แน่ใจว่าพฤติกรรมที่น่าอับอายประเภทนี้จะถูกกำจัดให้หมดไปจากเกมการแข่งขันอย่างถาวร”

ฟุตบอล พอดคาสต์ บทสวดเหยียดผิวให้อังกฤษชนะ

เมื่อบ่ายวันศุกร์ ฟีฟ่า ผู้ควบคุมดูแลโลกของฟุตบอล กล่าวว่ากระบวนการทางวินัยได้เปิดขึ้นแล้ว “หลังจากการวิเคราะห์รายงานการแข่งขัน”

มันเสริมว่า “อีกครั้งที่ฟีฟ่าต้องการระบุจุดยืนของเรา ยังคงมั่นคงและแน่วแน่ในการปฏิเสธการเหยียดเชื้อชาติและความรุนแรงทุกรูปแบบ ตลอดจนการเลือกปฏิบัติหรือการละเมิดรูปแบบอื่น ๆ เรามีจุดยืนที่ชัดเจนอย่างยิ่งต่อพฤติกรรมที่น่ารังเกียจในฟุตบอล”

แม้ว่า Uefa จะสั่งให้ฮังการีเล่นเกมในบ้าน 3 เกมหลังปิดประตู หลังจากพฤติกรรมการเลือกปฏิบัติของผู้สนับสนุน แต่แฟน ๆ ก็ได้รับอนุญาตให้เข้าร่วมในวันพฤหัสบดี เนื่องจากเกมดังกล่าวอยู่ภายใต้เขตอำนาจศาลของ  ฟุตบอลฟีฟ่า

การแบนของ Uefa เกี่ยวข้องกับการเหยียดเชื้อชาติและพฤติกรรมการเลือกปฏิบัติอื่น ๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างยูโร 2020 ในเดือนมิถุนายน

ในขณะที่ Uefa จัดการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกที่เกี่ยวข้องกับทีมยุโรป ฟีฟ่าก็สามารถดำเนินการได้เพราะเป็นการแข่งขันของพวกเขา

“ FIFA 21 ขอปฏิเสธการเหยียดเชื้อชาติและความรุนแรงทุกรูปแบบ และมีจุดยืนที่ชัดเจนอย่างยิ่ง ต่อพฤติกรรมดังกล่าวในฟุตบอล” องค์กรปกครองระดับโลกของเกมกล่าว

ฟีฟ่า-ยูฟ่าวิจารณ์ยอมให้แฟนบอลเข้าได้

หน่วยงานต่อต้านการเลือกปฏิบัติ Kick It Out แสดง Racism the Red Card (องค์กรการกุศลด้านการศึกษาเพื่อต่อต้านการเหยียดเชื้อชาติ) และ Fare วิพากษ์วิจารณ์ สหพันธ์ฟุตบอลระหว่างประเทศฟีฟ่า และ Uefa ในการจัดการกับข้อห้ามที่มีอยู่ของฮังการี

โทนี่ เบอร์เน็ตต์ ประธานบริหาร Kick It Out กล่าวถึง ฟีฟ่า

“ทั้งหมดที่ฉันได้ยินมาอีกครั้งคือข้อแก้ตัวว่าใครควรยื่นเอกสารอะไร และใครควรยื่นคำอนุญาตสำหรับ X, Y และ Z”

Power ยังยืนยันด้วยว่า The Fare Network ซึ่งเป็นองค์กรที่พยายามต่อสู้กับความไม่เท่าเทียมในวงการฟุตบอล จะให้รายงานแก่ทางการจากเกม รวมถึงฟุตเทจวิดีโอ

Ged Greddy หัวหน้าผู้บริหารของ องค์กรการกุศลด้านการศึกษาเพื่อต่อต้านการเหยียดเชื้อชาติ บอกกับ บีบีซี เรดิโอ ไฟฟ์ไลฟ์ ว่าGareth Southgate ผู้จัดการทีมชาติอังกฤษพูดถูก ที่จะบอกว่าอังกฤษควร “จัดบ้านของตัวเองให้เป็นระเบียบ”ก่อนที่จะวิพากษ์วิจารณ์คนอื่นเกี่ยวกับพฤติกรรมของพวกเขา หลังจากการเหยียดผิวในหลายๆ กรณี เกม. Grebby ยังเสริมอีกว่าควรมี “โปรแกรมการศึกษาระยะยาว” เพื่อช่วยจัดการกับการเหยียดเชื้อชาติในฟุตบอลฮังการี

สมาคมนักฟุตบอลอาชีพกล่าวว่า “ช่องโหว่” ซึ่งหมายความว่าเกมไม่ได้ปิดประตูต้องได้รับการแก้ไข “องค์กรปกครองฟุตบอลระดับโลกจำเป็นต้องแสดงให้เห็นว่า พฤติกรรมเหล่านี้จะไม่มีวันยอมจำนนในเกมของเรา” สหภาพผู้เล่นกล่าว “เราต้องการให้พวกเขาออกมาตรการคว่ำบาตรที่รุนแรงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เช่น การแบนสนามกีฬาตลอดชีวิต”

เกิดอะไรขึ้นในบูดาเปสต์?

ผู้เล่นของอังกฤษ ถูกโห่ร้อง เมื่อพวกเขาคุกเข่าก่อนการแข่งขันที่ Puskas Arena ความจุหกหมื่นเจ็ดพัน คน เพื่อประท้วงการเหยียดเชื้อชาติโดย Juliette Ferrington นักข่าว บีบีซี เรดิโอ ไลฟ์ อธิบายว่าปฏิกิริยาจากแฟน ๆ เป็น “กำแพงแห่งเสียง” เธอยังอธิบายด้วยว่า สามารถได้ยินเพลงเหยียดผิว ในระหว่างการแข่งขันได้อย่างไร และราฮีม สเตอร์ลิ้งกับจูด เบลริงแฮม เป็นเป้าหมายของการเหยียดเชื้อชาติ

ในครึ่งหลัง สเตอร์ลิงถูกขว้างด้วยถ้วยกระดาษ และขวดเมื่อเขาทำสกอร์ให้ทีมอังกฤษ และเปลวไฟถูกโยนลงสนามในเวลาต่อมา หลังจากที่แฮร์รี่ แม็คไกวร์ ทำประตูขึ้นนำ 3-0

สหพันธ์ฟุตบอลฮังการี (MSLAZ) กล่าวว่า “ผู้ที่ขัดขวางการแข่งขัน จำเป็นต้องเปิดเผยตัว และลงโทษอย่างรุนแรง” แต่ไม่ได้อ้างอิงเฉพาะเจาะจงถึงการละเมิดการเลือกปฏิบัติ

“มีการระบุตัวแฟนๆ ที่ขว้างระเบิดควันและแว่นตา กองกำลังทหาร MLSZ ได้ยื่นเรื่องต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ” MLSZ กล่าว “ค่าปรับใดๆ จะถูกส่งต่อไปยังผู้กระทำความผิดในคดีแพ่ง และพวกเขาจะถูกตัดสิทธิ์สองปีจากการแข่งขันกีฬาเมื่อสิ้นสุดการพิจารณาคดี”

แกเร็ธ เซาธ์เกต กุนซือทีมชาติอังกฤษ ถูกแฟนบอลขว้างปาน้ำแข็งใส่เขาระหว่างการให้สัมภาษณ์หลังเกมกับ บีบีซี เรดิโอ ไลฟ์ ซึ่งเขากล่าวว่า “เขาหวังว่าการละเมิดดังกล่าวจะ จัดการด้วยวิธีที่ถูกต้อง”

“ผมเคยได้ยินรายงานเรื่องการเหยียดเชื้อชาติ ซึ่งผมไม่เคยได้ยิน ในระหว่างเกมของผม” เขากล่าว “ทุกคนรู้ดีว่าเรายืนหยัดเพื่ออะไรในทีม และนั่นเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้โดยสิ้นเชิง มีรายงานแล้ว หัวหน้าฝ่ายรักษาความปลอดภัยของเราได้พูดคุยกับผู้เล่นและรับคำแถลงของพวกเขา เราจะจัดการกับมันในช่องทางที่ถูกต้อง

“โลกกำลังทันสมัยขึ้น และแม้ว่าบางคนจะติดอยู่กับวิธีคิดและอคติ แต่ท้ายที่สุดแล้ว พวกเขาก็จะกลายเป็นไดโนเสาร์ เพราะโลกกำลังเปลี่ยนแปลง”

Peter Szijjarto รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของฮังการี ตั้งคำถามอังกฤษเกี่ยวกับเสียงโห่ในบูดาเปสต์ โดยโพสต์ Facebook ที่มีวิดีโอของผู้สนับสนุนอังกฤษที่ Wembley เยาะเย้ยระหว่างเพลงชาติอิตาลีก่อนการแข่งขันยูโร 2020 รอบชิงชนะเลิศ

ปฏิกิริยาในฮังการี

ชาวฮังการีตอบโต้ด้วยความโกรธ ความละอาย และการต่อต้านข้อกล่าวหาเรื่องการเหยียดเชื้อชาติ

รัฐบาลฝ่ายขวาของ Fidesz ครองอำนาจมา 11 ปีแล้ว และภูมิใจกับจุดยืนชาตินิยมที่เปิดกว้าง ที่เข้ากันได้ดีกับแฟนๆ ที่รู้จักในชื่อ Ultras ในชุดเสื้อยืดสีดำ นายกรัฐมนตรี Viktor Orban และรัฐมนตรีบางคนจบสุนทรพจน์ด้วยสโลแกนฟุตบอล ‘Go for it, Hungarians!’

“เอฟเอของฮังการีบ่นกับ ฟีฟ่าเวิลร์คัพ … ว่าทีมอังกฤษกำลังโฆษณาชวนเชื่อทางการเมือง จากการแข่งขันกีฬา” อ่านความคิดเห็นหนึ่งบนเว็บไซต์ของฝ่ายสนับสนุนรัฐบาล แต่พฤติกรรมก็น่ารังเกียจเช่นกัน โดยเฉพาะการไล่ล่าของราฮีม สเตอร์ลิง

“อย่าแสร้งทำเป็นว่าแฟนฮังการีที่รักไม่มีวันทำอย่างนั้น เรามีส่วนแบ่งของพวกบ้ากาม และเกลียดชัง แบนพวกเขาตลอดชีวิต หากมีหลักฐานวิดีโอหรือเสียง”

ติดตามข่าวกีฬาสดใหม่อัพเดตทุกวันได้ที่เว็บ hollywoodufabet